วันที่ 5 เม.ย.67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีต รองผบ.ตร. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามที่เป็นข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งในในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบเป็นครั้งแรก
พล.ต.อ.วินัย กล่าวว่า เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. และฝ่ายที่กล่าวหาพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เข้ามาสอบถามเกือบ 30 ราย เช่น พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน และทีมทนายความพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าให้ข้อมูลและให้ส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงภายในวันที่ 30 เม.ย. พร้อมจะให้ฝั่งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ส่งข้อมูลเอกสารที่เหลือทั้งหมดมาให้คณะกรรมการภายในวัน 20 เม.ย.
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกือบ 30 คน คณะกรรมการมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับศาล ซึ่งเชื่อว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริง โดยเป็นการฟอกเงิน ที่พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์ มายังบัญชีม้าและเชื่อมโยงมายังพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงเชื่อว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์รู้และได้รับประโยชน์บางส่วนจากการกระทำดังกล่าว แต่ยังต้องตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก
การตรวจสอบของคณะกรรมการนั้น มีผลออกมาก่อนที่ศาลจะออกหมายจับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หากข้อมูลฝั่งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วจะทยอยส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา โดยไม่ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงฝั่งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เนื่องจากหากไม่ทันกำหนดภายใน 60 วัน สามารถขยายขยายระยะเวลาต่อไปได้ แต่ยืนยันจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับกระบวนการตรวจสอบฝั่งของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์นั้น ในวันที่ 10 เม.ย. เวลา 10.30 น. จะเชิญนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เข้าให้ข้อมูลที่บ้านมนังคศิลา หลังจากที่คณะทำงานได้เชิญมาหลายครั้ง แต่ทนายตั้มอ้างว่าติดภารกิจเดินสายร้องเรียน ซึ่งต้องสอบถามทนายตั้มเกี่ยวกับที่มาของเอกสารที่นำไปร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์และภรรยาที่สน.เตาปูน รวมทั้งที่มาของพยานบุคคลและเส้นทางการเงินอ้างว่ามีความเชื่อมโยงกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์และภรรยา พร้อมยืนยันคณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจในการตรวจสอบ ทั้งข้าราชการและบุคคลทั่วไปที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการในชั้นศาลในอนาคต
หากภายหลังเกิดกรณีศาลมีคำพิพากษาว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งขัดกับผลการตรวจสอบของคณะกรรมการจะถือเป็นปัญหาหรือไม่นั้น พล.ต.อ.วินัย กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต เพราะแม้ว่าศาลจะชี้ว่าไม่ผิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะไม่ผิด เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน หากอนาคตพล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะฟ้องกลับคณะกรรมการชุดนี้ ก็ไม่กังวลและรู้สึกยินดี